การเลือกซื้อโต๊ะทำงาน

การเลือกซื้อโต๊ะสักตัว มันน่าจะเป็นแค่เรื่องของการเลือกรูปแบบและขนาด ถ้าคุณรู้ว่าคุณอยากได้แบบไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

แต่ความจริงแล้ว มีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่คุณมองไม่เห็นและควรจะพิจารณา คุณภาพของโต๊ะที่หลากหลายจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถใช้มันได้อย่างคงทนถาวร หรือแค่ไม่กี่วันก็เปลี่ยนเป็นขยะได้เลย ความแตกต่างเบื้องต้นของโต๊ะคือวัสดุที่ใช้ในการผลิต โต๊ะส่วนใหญ่จะผลิตจากไม้ ลามิเนท หรือเหล็ก  ถึงแม้ว่าโต๊ะที่ผลิตจากไม้จะดูดีที่สุด แต่มันมักจะเป็นรอยง่ายและต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้สภาพคงเดิมอยู่เสมอ ทำให้โต๊ะส่วนใหญ่จะผลิตจากลามิเนท (Laminate) มากกว่า ซึ่งก็คือพลาสติกสำเร็จรูปที่แปลงให้เป็นแกนไม้ มันทำได้หลายรูปแบบ จะทำให้ดูเป็นไม้ธรรมดาก็ได้หรือ แต่งเติมเป็นสีสันก็ได้ ทั้งยังควบคุมราคาให้อยู่ให้งบประมาณ และสินค้าอยู่ในตลาดระดับกลางด้วย แต่ถ้ามองหาความคงทนล่ะก็ โต๊ะเหล็กดูจะเหมาะที่สุด

                บทความนี้จะนำเสนอสิ่งที่น่ารู้ในการเลือกซื้อโต๊ะ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อโต๊ะทำงานได้

การวัดคุณภาพ

                การตรวจสอบคุณภาพโต๊ะที่ดีนั้น ให้ดูจากการผลิตลิ้นชัก ลิ้นชักคุณภาพสูงจะมีรางเลื่อนที่แข็งแรง โดยใช้เหล็กทำล้อเลื่อน ให้แน่ใจว่าถึงแม้ในลิ้นชักจะใส่ของหนักไว้ก็ยังสามารถเปิดปิดได้อย่างไม่ติดขัด และควรจะเปิดออกมาได้สุด เพื่อที่จะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่

                เราสามารถตรวจสอบคุณภาพของโต๊ะทำงานไม้ได้จากลิ้นชักอีกเช่นกัน โดยโต๊ะที่มีคุณภาพสูงจะประกอบลิ้นชักด้วยสลักลิ้นเชื่อมต่อ แทนที่จะใช้ตัวเย็บหรือกาว และด้านล่างของลิ้นชักควรจะทำด้วยไม้อัดมากกว่าแผ่นพลาสติกเมลานิน

                สำหรับโต๊ะลามิเนทนั้น ควรจะดูจากชนิดของลามิเนท ลามิเนทยิ่งหนา มีแรงอัดสูง จะทนต่อรอยด่าง รอยขีดข่วน รอยบวมน้ำ และรอยอื่น ๆ ได้ดีกว่าลามิเนทที่บาง ยิ่งไปกว่านั้น โต๊ะที่มีราคาแพงโดยมากจะมีมุมที่มีลักษณะมน มากกว่ามุมเหลี่ยม

                สิ่งแรกที่บ่งชี้ได้ถึงคุณภาพของโต๊ะเหล็กก็คือความหนาของแผ่นเหล็ก โดยประเมินได้จากความรู้สึกถึงความแข็งแรงของการประกอบและน้ำหนักโดยรวมของโต๊ะ  และอีกจุดที่ควรจะสังเกตก็คือลักษณะลิ้นชักเวลาปิด โต๊ะที่ประกอบไม่ดี จะมีช่องว่างระหว่างลิ้นชักกับโต๊ะ

เลือกโต๊ะเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์

                ถ้าคิดจะวางคอมพิวเตอร์บนโต๊ะด้วย คุณควรจะแน่ใจว่าจะวางคีย์บอร์ดได้ในความสูงที่ถนัดหรือเหมาะสม โดยทั่วไปโต๊ะจะสูงประมาณ 29-30 นิ้ว ซึ่งคุณจะรู้สึกไม่สบายนักถ้าต้องทำงานเป็นเวลานาน ฉะนั้น ควรจะเลือกโต๊ะที่มีชั้นวางคีย์บอร์ด (ที่ปรับได้) หรือ ขาตั้งที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน และดูด้วยว่าชั้นวางคีย์บอร์ดควรจะหว้างพอที่จะวางเมาส์หรือ pointing device อื่น ๆ

                อีกสิ่งนึงคือการจัดวางสายคอมพิวเตอร์ โต๊ะบางตัวมีช่องให้สายคอมพิวเตอร์ลอดผ่าน ซึ่งจะทำให้เป็นระเบียบ ระโยงระยาง บางตัวก็มีท่อสำหรับวางสายได้ ผู้ผลิตบางรายจัดทำช่องเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้เกะกะเท้า

ความคงทน

                การรับประกันอาจสามารถบ่งบอกถึงอายุการใช้งานได้ โดยทั่วไปโต๊ะทำงานระดับกลางจะมีการรับประกันอยู่ที่ 5 ถึง 15 ปี ในขณะที่โต๊ะคุณภาพสูงจะออกแบบให้คงทนถาวร ใช้ได้ตราบนานเท่านาน

                ส่วนที่มักจะถูกใช้งานหรือถูกสัมผัสมากที่สุดคือขอบโต๊ะ โดยเฉพาะตรงมุมและตรงกลางใกล้กับเก้าอี้ คุณอาจจะลองตรวจสอบการลอกหลุดหรือบิ่นของขอบโต๊ะได้

เคล็ดลับในการเลือกซื้อ

เฟอร์นิเจอร์ที่ซ่อมแซมได้

ทางเลือกหนึ่งสำหรับการซื้อโต๊ะที่ราคาถูกแต่คุณภาพดีก็คือการซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถประกอบซ่อมแซมได้ ผู้ขายสามารถซ่อมแซมชิ้นส่วนที่เสียหายหรือปรับปรุงส่วนพื้นผิวใหม่เพื่อลบรอยต่าง ๆ เฟอร์นิเจอร์แบบนี้น่าจะเหมาะกับบริษัทขนาดเล็ก

เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อ

โดยปกติ ยอดขายจะตกในช่วงฤดูร้อน คุณอาจจะลองเจรจาซื้อช่วงนี้

ใช้โต๊ะทำงานให้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์

ถ้าคุณมองหาโต๊ะสำหรับการประชุมหรือทำงานร่วมกันหลายคน ควรจะมองหาแบบที่มีพื้นที่ใต้โต๊ะกว้างหน่อย เพื่อที่จะได้มีที่สำหรับยืดแข้งยืดขาให้เพื่อนร่วมงานได้